Pages

Sunday, June 21, 2020

ชีวิตในญี่ปุ่นกับเรื่องสนุกในวันฝนตก - ผู้จัดการออนไลน์

asikjost.blogspot.com

ภาพจาก https://yumiyumiyumi.xyz/
คอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น” โดย “ซาระซัง”

สวัสดีค่ะเพื่อนผู้อ่านที่รักทุกท่าน ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นฤดูฝนอันเฉอะแฉะ โชคดีว่าบ้านเมืองในญี่ปุ่นนั้นสะอาดสอ้านเหลือเกิน ทำให้ไม่มีโคลนหรือขยะติดขาติดกางเกงมาให้รำคาญใจ อีกทั้งยังมีเรื่องสนุกในวันฝนตกหลายอย่าง ทำให้ฤดูฝนไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อหน่ายเสมอไป

ช่วงหน้าฝนญี่ปุ่นจะเป็นช่วงที่ดอกไฮเดรนเยียบานสะพรั่งเต็มข้างทาง ออกดอกสีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีขาว ตัดกับใบเขียวขจี เป็นความสดใสของดอกไม้ที่เริงร่ารับน้ำฝนโปรยปรายภายใต้ท้องฟ้าสีเทา เห็นแล้วชวนให้คลี่ยิ้มออกมา จนบางทีก็อดไม่ได้ที่จะหยุดยืนมองความงามของดอกไม้เหล่านั้นอยู่พักใหญ่ ไฮเดรนเยียออกดอกเพียงแค่ช่วงเวลาอันสั้น ฉันจึงอยากจดจำภาพพวกมันเอาไว้นาน ๆ

ญี่ปุ่นก็ช่างน่าประทับใจตรงที่ต้นไม้ดอกไม้ซึ่งอยู่ข้างทางหรือปลูกตามบ้านเรือนเป็นตัวบ่งบอกว่าฤดูกาลไหนกำลังมาเยือน เป็นสีสันและบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกถึงความอ่อนโยนของธรรมชาติอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

ภาพจาก https://xn--k9jc5i.com/private/gardening/
ตอนอยู่ญี่ปุ่นฉันจะดูพยากรณ์อากาศล่วงหน้าแทบทุกวัน จะได้รู้ว่าต้องเตรียมร่มไหม ต้องสวมเสื้อผ้าอย่างไรจึงจะเปียกแฉะน้อยที่สุด ตัวฉันเองไม่ชอบให้เสื้อผ้าเปียกเอามาก ๆ เพราะรู้สึกไม่สบายตัว วันทำงานที่ฝนตกจึงใส่รองเท้าบู้ทกันฝนคู่กับกระโปรงยาวพอดีเข่าเสมอ ต่อให้เปียกฝนบ้างก็ยังแห้งเร็ว กลายเป็นสนุกกับการแต่งตัวในวันฝนตกไปโดยปริยาย

“พวกผู้หญิงนี่ดีจัง ฝนตกก็ใส่รองเท้าบู้ทกันฝนได้” เพื่อนร่วมงานชายคนหนึ่งเปรยตอนเห็นฉันเดินเข้าสำนักงานมาในเช้าวันฝนตก รองเท้าบู้ทกันฝนของผู้หญิงนั้นมีความยาวหลายระดับ ทั้งแบบคลุมทั้งน่อง สั้นระดับแข้ง และแบบพอดีข้อเท้า มีทั้งแบบลวดลายฉูดฉาดและแบบสีสุภาพเรียบร้อย ทำให้ใส่ไปทำงานแล้วดูไม่ขัดตา อีกทั้งบางคู่ก็มีบุผ้าหนาไว้ข้างในอีกชั้น ทำให้เท้าไม่เย็นจัดในวันที่อากาศหนาว

ภาพจาก https://domani.shogakukan.co.jp/58334
ในขณะที่ผู้ชายไม่มีรองเท้าบู้ทกันฝนที่เหมาะกับชุดสูททำงานเท่าไหร่นัก อย่างมากก็เป็นรองเท้ากันน้ำ หรือถ้าจะใส่บู้ทกันน้ำแบบที่ใช้เวลาทำสวนก็ดูขัดตาไม่เข้ากับสูทอีก ยิ่งต้องใส่กางเกงทำงานขายาว พอฝนตกทีก็เปียกแฉะไปทั้งขา นึกแล้วก็น่าเห็นใจ น่าจะมีรองเท้าบู้ทกันฝนสำหรับผู้ชายที่ใส่แล้วเข้ากับชุดทำงานบ้าง

ยังดีว่าญี่ปุ่นไม่ค่อยมีฝนตกหนักราวฟ้ารั่วแบบบ้านเรา ฉันจำได้ว่าตอนอยู่เมืองไทยเคยนั่งแท็กซี่กลับมาถึงบ้านแล้วฝนก็เริ่มเทซู่ลงมาห่าใหญ่ แม่เห็นฉันจากในบ้านจึงรีบไปคว้าร่มออกมารับที่ประตูรั้ว แต่แม้จะอยู่ใต้ร่มคันใหญ่ก็ยังเปียกปอนกลับเข้าบ้านกันทั้งคู่

แต่ที่ญี่ปุ่นฝนจะตกปรอย ๆ บางคราวก็เหมือนละอองน้ำโปรยเป็นฝอยอยู่ในอากาศ ดูโรแมนติก เว้นแต่จะเป็นช่วงพายุซึ่งอย่างไรก็ลมแรงพัดมาจากทุกทิศทาง นอกจากร่มจะไม่ช่วยกันตัวเปียกแล้วยังอันตรายเสียอีก ช่วงพายุฝนจึงได้เห็นร่มหักที่ตกอยู่ตามข้างทางบ่อยครั้ง

พูดถึงร่มแล้ว ก็นึกได้ว่าญี่ปุ่นเป็นเจ้าแห่งการออกแบบร่มจริง ๆ ค่ะ นอกจากจะมีทั้งร่มกันฝนและร่มกันแดดแล้ว ยังออกแบบลวดลายที่สวยงาม มีสีสันฉูดฉาด และมีรูปร่างหลายแบบ จนเรียกว่าเป็นแฟชั่นก็ว่าได้ และมีทั้งสำหรับผู้ชายและผู้หญิงด้วย คันหนึ่ง ๆ อาจมีสนนราคาหลายพันเยนขึ้นไปจนถึงหลักหมื่นเยน และบางคนก็ให้ร่มเป็นของขวัญกัน เวลาไปเดินห้างแล้วเห็นร่มสีสันสะดุดตาเรียงรายกันเฉิดฉายแล้ว ก็รู้สึกราวกับได้ยินเสียงร่มทุกคันส่งเสียงเจื้อยแจ้วว่า “ ซื้อฉันสิ ๆ ” แต่ฉันก็ยังไม่เคยลงทุนกับร่มกันฝนเสียที เพราะกลัวไปลืมไว้เวลาขึ้นรถไฟหรือไปร้านอาหาร เกรงว่าจะเสียดายหากเป็นร่มคันโปรดราคาแพง

ภาพจาก https://tsu-matsubishi.blogspot.com/2016/05/blog-post_20.html
ที่ญี่ปุ่นเวลาขายร่มกันฝน เขาจะโฆษณากันที่จำนวนก้านร่ม ยิ่งก้านมากก็ยิ่งแข็งแรง ไม่พังง่าย แต่ส่วนใหญ่ก็จะน้ำหนักมากไปด้วย เมื่อก่อนฉันก็ไม่ทราบว่าร่มที่ทนทานนั้นเป็นเพราะมีจำนวนก้านมาก พอไปเห็นร้านแผงลอยที่วางขายร่มแล้วได้ยินคนขายโฆษณาอย่างนั้นถึงได้รู้ ร้านนั้นขายร่มที่ปกติจะเห็นเฉพาะสีพื้นสีเดียว แต่พอร่มเปียกแล้วจึงจะเห็นลายพร้อยปรากฏออกมา ฉันเห็นว่าแปลกตา ราคาไม่แพง และดูแข็งแรง จึงซื้อมาคันหนึ่ง ใช้มาเกือบสิบปีแล้วยังสภาพดีอยู่เลย

ร่มกันแดดของญี่ปุ่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันชอบมาก แบบที่ทำออกมาดีหน่อยจะบุพลาสติกไว้ด้านในจนทึบแสงสนิท จึงหลบแดดในวันอากาศร้อนได้ชะงัด น่าเสียดายว่าพอมาอยู่อเมริกาแล้ว แทบไม่เจอใครใช้ร่มตอนแดดออกเลย กว่าจะเห็นคนใช้ร่มกันแดดแล้วไม่รู้สึกผิดที่ผิดทางคือต้องไปไชน่าทาวน์เท่านั้น นาน ๆ จะเจอคนฝรั่งถือร่มกันแดดบ้างเสียทีหนึ่ง ฉันเคยถือร่มกันแดดไปด้วยตอนไปทำฟัน พยาบาลถามงง ๆ ว่าวันนี้ฝนจะตกหรือ จะว่าไปก็ตลกดีที่คนฝรั่งไม่ใช้ร่มกันแดด ทั้งที่แต่เดิมก็ดูเหมือนจะเป็นแฟชั่นในยุโรปอยู่สมัยหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว

ร่มราคาถูกในญี่ปุ่นก็มีเหมือนกันนะคะ หน้าตาคล้ายกันหมดคือใสแจ๋วไม่มีลวดลาย ไม่ก็สีขาว ขนาดใกล้เคียงกัน ด้ามสีขาวบ้างสีดำบ้าง ราคาไม่กี่ร้อยเยน แต่พังง่ายโดยเฉพาะเวลาลมแรง ฉันเคยถือร่มแบบนี้ไปร้านราเม็งใกล้บ้านกับเพื่อน พอถึงร้านก็เสียบร่มไว้ที่กล่องเสียบร่มหน้าร้าน ตอนออกจากร้านอีกทีจะมาหยิบร่ม ก็เพิ่งสังเกตว่าร่มส่วนใหญ่ที่เสียบอยู่เป็นร่มใสเกือบหมด

ภาพจาก https://archive.dannychoo.com/ja/posts/transparent-umbrellas
“ตายแหล่ว…” ฉันนึกในใจ

เมื่อแยกความต่างไม่ออกจึงชักสับสนว่าร่มคันไหนของตัวเองแน่ ได้แต่ต้องหยิบขึ้นมาดูทีละอัน โดยมีเพื่อนยืนให้กำลังใจ ฉันเลยหาร่มไปคุยกับเพื่อนไปด้วย เดี๋ยวเพื่อนจะเหงา

“คันนี้แหงเลย...อ้าว ไม่ใช่”

“อ้อ คันนี้แหละ...เอ๊ะ ไม่ใช่อีกแล้วแฮะ”

จนสุดท้ายเจอร่มตัวเองก็ร้องอย่างลิงโลด “เจอแล้วววว!!” ...แล้วก็เพิ่งเอะใจว่าประตูร้านเปิดค้างอยู่ ชักตกใจว่าเราส่งเสียงรบกวนคนอื่นในร้านหรือเปล่านี่ พอหันขวับไปมองในร้านก็เห็นพนักงานพากันกลั้นหัวเราะ เปิ่นจริง ๆ เลยฉัน...ตั้งแต่นั้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก ก็เลยแปะสติกเกอร์ไว้ที่ด้ามร่ม จะได้เห็นแล้วจำได้ทันที

เวลาเดินเข้าอาคารในวันฝนตก บางแห่งจะมีจุดให้สะบัดน้ำฝนออกจากร่มด้วยนะคะ เป็นอุปกรณ์รูปร่างอย่างข้างล่างนี้ วิธีใช้คือเอาร่มแหย่เข้าไปในช่องแล้วตีผัวะ ๆ ไปมาไม่กี่ที แค่นี้ก็ทำให้ร่มไม่มีหยดน้ำไหลย้อยอีกต่อไป เป็นวิธีง่าย ๆ และสนุกดี ทำให้ไม่ต้องสร้างขยะจากถุงพลาสติกห่อร่ม และไม่เปลืองทรัพยากรใช้แล้วทิ้งด้วย

ภาพจาก https://www.offinet.com/furniture/6813633/
บางแห่งก็ใช้เป็นเครื่องใส่ถุงพลาสติกอัตโนมัติให้ร่มแทน แรก ๆ ฉันเห็นแล้วก็ไม่รู้ว่ามันอะไรอย่างไร ก็ดูคนอื่นเขาทำ เห็นเขาเอาร่มเสียบลงในช่องเสียบร่มด้านบน แล้วก็ดึงออกทางด้านหน้า เท่านี้ร่มก็อยู่ในซองพลาสติกแล้ว

ภาพจาก https://interstate.co.jp/news/chip/kasapon
ถ้าหากไม่มีเครื่องอย่างนี้ แล้วใช้วิธีแขวนถุงพลาสติกเป็นปึกให้คนมาดึงออกไปใส่เอง ก็จะทุลักทุเลกันพอสมควร ยิ่งถ้าถือของอยู่ด้วยยิ่งลำบาก พอทุกคนที่เดินเข้าอาคารมาต้องเสียเวลากับการใส่ร่มลงในถุงพลาสติก ก็จะกีดขวางทางคนอื่นที่เดินตามหลังเข้าอาคารมา การมีเครื่องแบบนี้จึงช่วยให้รวดเร็วมากและเหมาะสำหรับอาคารสำนักงานหรือห้างสรรพสินค้าที่คนเยอะ

ยิ่งไปกว่านั้น บางแห่งยังมีเครื่องเก็บซองใส่ร่มที่ใช้แล้วด้วย พอเสียบปลายร่มซึ่งยังอยู่ในซองเข้าที่ช่องเสียบ เครื่องก็จะดูดซองออกไป ฉันเคยคิดว่าเครื่องนี้สะดวกดี แต่เกินความจำเป็นไปไหม ? ภายหลังจึงทราบมาว่าที่เขาคิดผลิตเครื่องแบบนี้ขึ้นก็เพราะเวลาคนถอดถุงพลาสติกออกทิ้งลงถังขยะ แทนที่จะขยำทิ้งลงไปที่ก้นถัง ก็มักทิ้งสุมไว้บริเวณปากถังขยะ ด้วยความที่ถุงมีน้ำหนักเบาจึงปลิวออกจากถังขยะมากระจัดกระจายอยู่ที่พื้น การมีเครื่องแบบนี้จึงช่วยให้ขยะไม่กระจายหรือโดนลมพัดปลิวไปที่อื่น

ภาพจาก https://www.distem.co.jp/product/bihin/kasabini-poipoi.html
พูดถึงขยะแล้ว หลายท่านคงทราบกิตติศัพท์ความสะอาดสอ้านของบ้านเมืองญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ด้วยความที่คนส่วนใหญ่พากันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขว้างขยะกันอย่างไร้ความรับผิดชอบ พื้นถนนทั่วทุกแห่งจึงดูสะอาดหมดจดโดยส่วนใหญ่ เมื่อปีสองปีก่อนที่เกิดน้ำท่วมหนักในจังหวัดซางะ บางแห่งน้ำค่อนข้างใสจนเห็นพื้นด้านล่าง จึงเห็นปลาคาร์ฟตัวใหญ่เกือบสองฟุตที่ปกติอยู่ในคูออกมาว่ายน้ำกันอยู่ตามถนนหนทางด้วย

สมัยที่ฉันยังเล็กมาก จำได้ว่าเวลาน้ำท่วมแล้วน้ำใสอย่างนั้นเหมือนกัน จนเคยคิดว่าอยากให้ท่วมสูงกว่านี้แล้วจะออกไปว่ายน้ำข้างนอก (เด็กหนอเด็ก) พอโตขึ้นมาอีกนิด ย้ายบ้านไปอยู่ติดถนนกลางเมือง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่น้ำท่วมกรุงเทพ ฯ พอรถวิ่งผ่านเกิดระลอกคลื่น ก็มีปลากระดี่หลุดเข้ามาในบ้านสองตัว แสดงว่าลำคลองบ้านเราในเวลานั้นยังคงสะอาดพอที่ปลาจะอาศัยอยู่ได้ หรือไม่ก็ยังมีสวนมีร่องน้ำอยู่ในเมือง เดี๋ยวนี้เรือกสวนไร่นาหายไปมาก อีกทั้งยังมีการถมคูคลองธรรมชาติเพื่อทำถนน ทำให้น้ำไม่มีทางระบายเวลาฝนตกหนัก เวลาเกิดน้ำท่วมจึงรุนแรงมาก

พอเห็นประเทศพัฒนาหลายประเทศให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมมาก ก็นึกเสียดายว่าถ้าเราทำแบบนั้นได้บ้าง คุณภาพชีวิตคงดีขึ้นอีกเยอะเลย หรือบางทีน้ำท่วมแล้วเราอาจจะได้เห็นปลาแหวกว่ายอยู่ในเมืองบ้างก็ได้
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีค่ะ.

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ซาระซัง" เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงโตเกียวนานกว่า 5 ปี ปัจจุบันติดตามสามีไปทำงาน ณ สหรัฐอเมริกา ติดตามคอลัมน์ “เรื่องเล่าสะใภ้ญี่ปุ่น”ที่MGR Onlineทุกวันอาทิตย์.

Let's block ads! (Why?)


June 20, 2020 at 07:23PM
https://ift.tt/3djHBrM

ชีวิตในญี่ปุ่นกับเรื่องสนุกในวันฝนตก - ผู้จัดการออนไลน์
https://ift.tt/2ZUolhk
Home To Blog

No comments:

Post a Comment